Sep 03

มะลิน้อยของแม่ หนูเข้าเดือน 11 ด้วยการมีฟันเพิ่มอีกสองซี่ รวมทั้งหมดเป็น 6 ซี่แล้วจ้ะ ตอนนี้หนูเคี้ยวอาหารคล่องแคล่ว สนุกสนานกับการกินเหมือนเดิม ทำให้แม่เริ่มเข้าสู่โลกงานอดิเรกที่แม่รักอีกอย่างก็คือการทำอาหาร แม่เห็นว่าหนูเคี้ยวได้ดีขึ้น กินข้าวสวยได้แล้ว ทีนี้แม่ก็เลยลองปรับอาหารของหนูให้เป็นอาหารที่เหมือนอาหารผู้ใหญ่ โดยที่ยังไม่ปรุงรสใด ๆ หนูก็กินอย่างเอร็ดอร่อย ส่งสัญญาณให้แม่รู้ว่าหนูพร้อมแล้วสำหรับอาหารคนโต แม่ก็เลยสนุกที่จะคิดเมนูอร่อย ๆ ที่หนูกินได้ และพ่อแม่ก็กินได้มาให้หนูได้ทดลองทุกวัน ตอนนี้แม่เปิดเพจ เมนูหนูมะลิ ให้แม่ ๆ คนอื่น ๆ ได้ดูเป็นไอเดียในการทำอาหารให้ลูก ๆ กินด้วย (www.facebook.com/malimenu)

ตั้งแต่ผ่านเดือน 10 เข้าสู่เดือน 11 หนูเริ่มมีความกล้าหาญชาญชัยมากขึ้น เดือนที่แล้วหนูคลานขึ้นบันไดคล่องแคล่ว แต่ยังลงไม่เป็น พอเข้าเดือนนี้ หนูก็เริ่มกล้าที่จะลงเอง เริ่มด้วยการถอยหลังลงจากบนโซฟาโดยที่อยู่ดี ๆ หนูก็ทำให้พ่อกับแม่ดูเองเลย ซึ่งทำให้แม่รู้ว่า สมองของหนูนั้นได้ฝังวิธีการถอยหลังลงมาตั้งแต่ที่แม่สอนเมื่อสองเดือนก่อนและเรื่อยมา ทุกครั้งที่แม่พาหนูขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ หรือโซฟา ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม เมื่อหนูจะลง แม่จะจับหนูคว่ำหน้า แล้วให้หนูลื่นไถลตัวลงไปเองทุกครั้ง และอยู่มาวันนึงหนูก็ทำได้เองโดยที่แม่ไม่ต้องจับแล้ว แม่ภูมิใจมากจ้ะ ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่สูงขึ้นมาจากพื้น ถ้าหนูจะลง หนูจะไม่ชะโงกหน้าทำหัวทิ่มลงไปอีกแล้ว แต่หนูจะถอยหลังแล้วค่อย ๆ ถอยก้น หย่อนขาลงไปแทน

หลังจากที่หนูพูดได้เป็นคำ ๆ ป๊าปา แม่ หม่ำ ยัมมี่ ตอนนี้หนูพัฒนาเป็นการพูดเร็ว ๆ รัว ๆ บลา ๆ ๆ ๆ ๆ พึมพำ ๆ ทั้งวัน พ่อกับแม่ไม่รู้ว่าหนูพูดอะไร หมายถึงอะไร แต่ก็สนุกที่ได้นั่งมองหนูพึมพำไปเรื่อยเปื่อยจ้ะ และในบางครั้งแม่ก็รู้สึกว่าหนูกำลังเลียนเสียง ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง แต่มันน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน หลายคนที่ได้ยินก็พยายามเดาเอาว่า หนูกำลังพูดภาษาอะไร ไทยหรือสวิส แม่คิดว่ายังไม่เป็นภาษาหรอกจ้ะ คงอยู่ในขั้นตอนเรียบเรียง แม่ก็รอคอยว่า วันไหนที่หนูพูดรู้เรื่องเป็นประโยคขึ้นมา วันนั้นบ้านของเราคงมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของหนูแน่นอนเลยจ้ะ

แต่ไม่ว่าหนูจะพูดรู้เรื่องหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่แม่สังเกตได้ก็คือ หนูเริ่มเข้าใจว่าแม่และพ่อพยายามสื่อสารอะไรกับหนู ถ้าแม่ทำอะไรซ้ำ ๆ วันหนึ่งหนูก็จะจำได้เอง เช่นแม่สอนให้หนู บ๊ายบาย ทุกครั้งที่จากลา เดี๋ยวนี้เวลาแม่พูด บ๊ายบายยย หนูก็ยกมือขึ้นมาโบกทันที / หรือถ้าตอนไหนที่หนูทำอะไรได้ แม่ก็จะพูดว่า เก่งมากจ้ะ พร้อมปรบมือไปด้วย เห็นบ่อยเข้าหนูก็ทำตาม พอแม่บอกว่า ตบมือหน่อยจ้า หนูก็จะทำตามได้ทันที แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิมไม่เคยเปลี่ยนก็คือ ถ้าแม่กับพ่อบอกว่า ไม่ได้ลูก หนูก็จะรีบขัดคำสั่งทันที โดยเฉพาะการเข้าไปรื้อหนังสือที่ชั้นหนังสือของแม่ 70% หนูจะไม่ค่อยไปยุ่ง เพราะแม่สอนตั้งแต่หนูเริ่มคลานเป็น แต่เดี๋ยวนี้ หนูจะหันมามองหน้าก่อน พอได้ยินคำว่า ไม่ได้นะลูก หนูก็จะหันขวับ แล้วเอื้อมมือคว้าหมับไปที่หนังสือทันที ทำให้พ่อกับแม่ต้องรีบพุ่งไปดึงตัวหนูออกมา แล้วหนูก็จะหัวเราะเอิ้กอ้ากเป็นที่พอใจ

เมื่อเดือนที่แล้วมะลิของแม่จับรถผลักเดินได้ ก็เดินไปทั่วเลย ไปได้ทุกที่ ๆ รถสามารถไถพาหนูไปได้ ไม่มีเหนื่อยไม่มีเมื่อย แต่จะมีขัดใจก็ตอนที่หนูไถไปจนสุดทาง เพราะหนูยังเลี้ยวไม่เป็น ยังกลับหลังหันไม่เป็น แต่ก็อย่างที่แม่บอก ว่าหนูกล้าหาญชาญชัยขึ้นมาก หนูเริ่มปล่อยมือ และพยายามที่จะเดินเอง ได้ก้าวเล็ก ๆ สองก้าว หนูก็หยุดแล้วกลับมาคลาน หรือจับรถผลักเดินไถต่อไป แต่อยู่มาวันนึง คืออีก 2 วันหนูจะครบ 11 เดือน เป็นวันที่หนูคงจะฮึกเหิมเติมกำลังใจมาเต็มที่ หนูปล่อยมือจากรถผลักเดิน แล้วค่อย ๆ ก้าวไปยังจุดหมายข้างหน้าที่อยู่ไม่ไกล แล้วก็บังเอิญว่าแม่นั่งดูห่าง ๆ กำลังอัดวีดีโอหนูอยู่พอดี หนูทำท่าจะล้มคว่ำไปข้างหน้าในขณะที่ก้าวที่สี่กำลังจะเกิดขึ้น หนูหยุดพักทรงตัวให้นิ่ง ๆ แล้วก็ก้าวเดินต่อไป แม่นับได้หกเจ็ดก้าวทีเดียวจ้ะ จากนั้นอะไรก็ฉุดหนูไม่อยู่ เพราะหนูพยายามจะเดินอยู่เรื่อย ๆ ว่างเมื่อไหร่ก็ลุกขึ้นยืนเอง เดินเอง หัดเดินไปเรื่อย ๆ พอเมื่อยก็ลงคลาน แล้วก็หัดใหม่ แม่ดีใจมากที่ได้เห็นความพยายามของหนูจ้ะ นี่สินะเป็นที่มาของประโยคที่ว่า “ความสำเร็จของลูกคือความภาคภูมิใจของพ่อแม่”

ช่วงเดือนนี้หนูเริ่มติดแม่มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนูจะเกาะแม่เป็นลูกลิง เพียงแค่หนูชอบเข้ามาปีนป่ายพัวพันแม่ บางทีก็มานอนซบอกแม่ มานอนข้าง ๆ แม่พิงหมอนเปิดหนังสือแล้วก็พูดบ่นไปคนเดียว เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ทำให้แม่ตื้นตันใจมากเลยจ้ะลูก จากที่หนูเคยเป็นเด็กน้อยตัวนิดเดียว ผ่านไปไม่เท่าไหร่ก็กลายมาเป็นมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ที่เริ่มมีความเป็นตัวของตัวเอง และเป็นเพื่อนตัวน้อยของแม่ แต่ถึงอย่างนั้นแม่ก็สามารถปล่อยหนูให้พ่อเลี้ยงได้คนเดียวเต็ม ๆ ทั้งวัน ไม่มีปัญหาเลย หนูใช้ชีวิตไปตามปกติ พ่อก็เลี้ยงหนูไปตามปกติ หิวก็ให้กิน ง่วงก็พานอน และนั่นทำให้แม่สามารถปลีกตัวไปใช้เวลาส่วนตัวได้บ้าง ซึ่งมันสำคัญกับแม่มาก เหมือนได้ไปชาร์ทพลังแล้วกลับมาทุ่มเทให้หนูได้เต็มที่เหมือนเคย ต้องขอบคุณพ่อและหนูมากจ้ะ

ตอนแรกที่ป้าจุ๋ยและพี่ ๆ เดินทางกลับไปแล้ว แม่ก็คิดว่าหนูคงจะเหงา และเฉาเป็นที่สุด เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว มีเพื่อน ๆ แม่มาเที่ยวบ้านเรากันอยู่หลายคน บ้านเราคีกคักมาก และหนูก็คึกคักมากเช่นกัน มีคนมาเล่นด้วย มีคนมาอุ้ม มาพูดมาคุย มาหยอกล้อ ได้ออกไปนอกบ้าน ไปนู่นมานี่ จนแทบจะไม่ได้อยู่ติดบ้านเลยทีเดียว แต่พอทุกคนกลับไปหมดแล้ว กลายเป็นแม่คนเดียวที่รู้สึกว่าบ้านเงียบไปถนัดใจ มะลิของแม่ก็ยังร่าเริง โลดแล่นปีนป่าย เล่นนู่น สำรวจนี่ ไปตามประสาของหนู แม่นั่งมองหนู ได้เห็นความร่าเริงของหนู ได้เห็นความสุขที่กระจายออกมาจากตัวหนู ทำให้แม่รู้สึกขอบคุณในใจที่ฟ้าได้ประทานหนูมาให้แม่ ถ้าเป็นเมื่อก่อน หลังจากป้าจุ๋ยกลับไปแล้ว แม่จะนั่งซึมเซาเหงาหงอยไปอีกเป็นเดือนเลยล่ะจ้ะ แต่ตอนนี้มีหนูมาเป็นเพื่อนแม่ มาสร้างความสุข มาเป็นกำลังใจให้แม่ แม่ขอบคุณหนูมากสำหรับความสุขที่หนูแบ่งให้แม่จ้ะ

รักหนูมากนะจ๊ะเจ้าเพื่อนตัวน้อยของแม่
แม่ของหนู

23 Responses to “10 ถึง 11 เดินได้ ปีนคล่อง”

  1. Alex Raksawong Says:

    อ่านแล้ว ซาบซึ้งมากครับ ความสุขอยู่รอบๆตัวเรานั่นเอง อยู่ที่เราจะหยิบฉวยมันมาให้ตัวเราได้อย่างไรเท่านั้นเอง แต่อย่าไปหยิบความทุกข์มาล่ะ :)

  2. คิดถึง Says:

    บางทีการที่เจ้าตัวน้อยเริ่มพูดได้บ้าง ก้ออาจจะได้เจอคำพูดที่สะกิดใจได้นะ เช่น ไม่ได้!, ไม่ให้, ไม่ชอบ, ไม่เอา, ไม่รัก ..ฮือๆ

  3. AomKondee Says:

    ตอนพี่อ้อมเรียน linguistic จำได้ว่าเด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมตั้งแต่ 2 ภาษา จะค่อนข้างเริ่มพูดช้า เพราะสมองจะพยายามสั่งสมคำศัพท์ทุกภาษา และใช้เวลาในการนำออกมาใช้. และเมื่อถึงเวลาเค้าจะสามารถใช้ภาษาได้อย่างน่าทึ่งทุกภาษาที่เค้าเก็บไว้้. ในกรณีของมะลิน่าสนใจมากเพราะเริ่มพูดได้ค่อนข้างเร็ว อาจเป็นเพราะคุณมดคอยเติมคำศัพท์ให้ตลอดเวลา. ทำให้มะลิมีคลังคำศัพท์มากมาย เชื่อว่าถึงตอนที่มะลิพูดเป็นประโยค ตอนนั้นทั้งพ่อและแม่ คงฟังแทบไม่ทันเลยทีเดียว. ชื่นชมคุณมดอย่างมากที่สามารถเลี้ยงและดูแลมะลิได้อย่างใกล้ชิดและใส่ใจเกินร้อย พี่กะพี่แดงยังคุยกันว่ามะลิเป็นเด็กฉลาดมากมาก โตขึ้นเค้าต้องเป็นคนเก่งและมีคุณภาพคนนึงที่เดียว!! ขอปรบมือดังๆๆๆๆๆ ให้ทั้งคุุณแม่ และต้องไม่ลืมความร่วมมือที่แสนวิเศษของคุณพ่อด้วย… 👍👍👍😍👏👏👏👪

  4. ป้าต้อม Says:

    เป็นจดหมายที่เขียนถึงลูก แต่ทำไมอ่านแล้วน้ำตาคลอ รู้สึกมีความสุขกับครอบครัวเล็กๆแสนอบอุ่นครอบครัวนี้มากๆ ครอบครัวน้องมดเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในชีวิตของป้าต้อมเลยนะคะ

    Y O U are The Best Mami & Papi naka !!!!

    <3 L O V E family Debrunner ka <3

  5. ป้าต้อม Says:

    รอ ช่วง 11 – 12 นะคะ คริ คริ

  6. overdrive Says:

    Я считаю, что Вы ошибаетесь. Могу это доказать. Пишите мне в PM, пообщаемся.

  7. GEtdKOvwZoN Says:

    ancZpNgehErLCY

  8. XObarDixSwT Says:

    FdIbQArz

  9. TbWEtedYZ Says:

    rQWiHmnlSRKtGM

  10. EanpexrzclqhLRvW Says:

    XJAMHbkSlIULGZz

  11. YtjpNZLVekOd Says:

    DMNsOrPTWh

  12. lbrotPaCkgSx Says:

    PMYEqrFDkKey

  13. mErTokQl Says:

    BTemJFdnR

  14. jacOuVTAtLIzqfGv Says:

    swvWHFeyOVMEYDrj

  15. jacOuVTAtLIzqfGv Says:

    fyFsdXCeObH

  16. WRuAbrCYeikaFSlP Says:

    gCUohHZm

  17. wARiIYkBz Says:

    ZMNeBUXF

  18. uCqnajlJb Says:

    STNndEtHIlW

  19. apmsewXMNrIFAZY Says:

    sAFGvuVRE

  20. NORSPzxt Says:

    PGTpicIvbXru

  21. hTIObBKp Says:

    ZNVIMsqG

  22. iMNnVkBe Says:

    AqLRSYTNmjl

  23. nAkSHqtu Says:

    wSgKZAqRUPJ

Leave a Reply